ล่าเรื่อง     meeting   รุ่น  6   เมื่อ  31 ต.ค. 2551

 
 

 

 

  หลังจากที่ได้มีการกำหนดวันนัดพบและสถานที่นัดพบกันเรียบร้อยแล้วโดยใช้ทั้งระบบ  Hi-tech  และ  Low-tech  ที่ว่า  Hi-tech ก็คือมีการส่ง e-mail ถึงคนที่แจ้ง  e-mail address ไว้ในทำเนียบรุ่น  และด้วยความที่กลัวว่าเจ้าของจะไม่ได้เปิดอ่าน  (  เพราะเพื่อนเราบางคน นานๆถึงจะเปิดอ่าน  อีแมว  กันสักครั้งหนึ่ง ) ก็มีการโทรศัพท์ย้ำกันอีกรอบหนึ่งด้วย   เรียกว่ากันพลาดกันเต็มที่      สำหรับผู้ที่ไม่ยอมเปิดเผย  e-mail address  หรือผู้ที่เราสืบทราบมาว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงมีเลขาเป็นผู้จัดการเรื่อง  e-mail ให้  ( เราไม่ได้พูดนะว่าเปิดเองไม่เป็น  !!!!!!!!! หรือไม่มี  !!!!!!!! )  ก็มีการแจ้งกันทางโทรศัพท์  เรียกว่าจะยังไงๆ  ระบบ Low-tech  ก็ยังเชื่อถือได้เสมอ    พวกเราก็ได้พบกันรวมแล้ว  20 คนพอดี  ตามรายชื่อต่อไปนี้ 

                               

1.     รัชนี           อยู่เกษ

2.     สุรพงษ์       บัวกันต์

3.     สุรพล          อานุภาพเดชา

4.     กิตติ            จัยวัฒน์

5.     ประทีป        บัญญัตินพรัตน์

6.     ไพโรจน์       ปิ่นแก้ว

7.     สังข์ชัย         คงโภคา

8.     สกลธร         กาญจนพิศาล

9.     เสมอใจ        สิงหวนิช

10.   มานิจ           สุขฉายี

11.   อารี              สวัสดี

12.   สุพจน์          ดำหริใจ

13.   อุทัย            ศรีธีระวิโรจน์

14.   วิชาญ          วิริยปรีดา

15.   พินิตร           พัฒนพิบูลย์ชัย

16.   พัฒนะ          ทิพาวรรณ

17.   รุ่งพันธ์          จันทวี

18.   เสกสรร         รอยลาภเจริญพร

19.   สุรพรรณ       ชาญณรงค์

20.   พิจารณ์         ฟูอมรสวัสดิ์

 
   

นอกจากนั้นยังมีพี่รุ่น  5  และน้องรุ่น  20 กว่าๆ  มาร่วมด้วย 2 คน  คือ พี่บุญโชติ  ภูมิผิว  และ อเนก บุญสม

 

                           งานนี้ถึงแม้จะมีการส่งแผนที่ของร้านให้กันแล้ว และเคยมานัดพบกันที่นี่แล้วก็ตาม  สกลธร ( อัมพร )  ประธานรุ่นของเราก็ต้อง   U turn  ซะไม่รู้กี่รอบ  กว่าจะหาร้านเจอ ..............   พี่สังข์ หรือ อีแต๋น ของน้องๆ ซึ่งบ้านอยู่ฝั่งธน  โดน ผบ.ทบ.               ( ผู้บังคับบัญชาที่บ้าน  หรือเรียกง่ายๆว่าภรรยา นั่นแหละ ) และลูกบังเกิดเกล้า   ไม่อนุญาตให้ขับรถ  ( สอบถามได้ความว่า  ปีนี้อายุเต็ม 68  ย่าง 69 แล้ว ) พี่เขาก็เลยต้องมาด้วยรถเมล์แอร์  ลงที่ทางแยก  เกษตร – นวมินทร์    แล้วก็เดินมาที่ร้าน  ไม่ใกล้ไม่ไกล  2 ก.ม. กว่าๆเท่านั้นเอง           ( แบบนี้เรียกว่า   ตั้งใจมาจริงๆ  พี่เขาแต่งตัวทะมัดทะแมงเตรียมพร้อมเลยแหละ  ใส่รองเท้าผ้าใบ ใส่หมวก  เดินแบบสมาร์ทจนนึกไม่ถึงว่าอายุ 68 แล้ว )    ตอนขากลับก็เลยต้องบอกกับสกลธรว่าฝากพี่สังข์กลับด้วยนะ   แต่อาจจะต้องไป  U turn ที่สุไหงโกลกนะ  ต้องทำใจหน่อย

 

คนที่มาถึงงานก็แจกของชำร่วยทันที  จนนึกว่าเป็นงานแต่งงาน  คือกิตติ   คราวนี้เป็นของชำร่วยของยา  Lipitor  คราวหน้าขอเป็นยา  Viagra  ก็แล้วกันนะเพื่อน ................. คนที่หายหน้าหายตาไปร่วมๆ 30 ปี เพราะไปทำงานอยู่ต่างประเทศ  ไม่มีใครเจอเลยก็มางานนี้ ด้วย ( อ๊ะ   อ๊ะ.. อย่าเพิ่งเข้าใจผิด  คิดว่าเป็น ต๋อย  ดนุตร )   เขาผู้นั้น  รูปร่างยังผอมเพรียวเหมือนสมัยยังเรียนอยู่  สิ่งที่แปลกตาไปคือผมที่เป็นสีดอกเลา   เขาผู้นั้นคือ  พิจารณ์........... พี่โรจน์  หรือพี่ห้อย  ของน้องๆ  ถึงแม้เกษียณแล้วก็ยังทำงานที่ ช่อง 3 และสอนหนังสือเป็นครั้งคราว   ได้ทราบมาว่าถึงแม้พี่จะเป็นรุ่น 1  และมาเรียนปี 4-5 ร่วม กับรุ่น 6   พี่เขาก็สนิทกับรุ่น 6 มากกว่ารุ่น 1 นะ  น้องๆซูฮกพี่รุ่นใหญ่คนนี้นะคะ ( รุ่นใหญ่จริงๆนะ  ไม่ได้โม้  เพราะตอนนี้น้ำหนัก 100 ก.ก.  พอดิบพอดี ) .................... เสกสรร  ( จุ๊น ) บุรุษผู้  busy มากๆ ก็สามารถปลีกเวลามาพบเพื่อนๆได้สำหรับงานนี้    พร้อมทั้งแจกการ์ดแต่งงาน   ( ไม่ได้แต่งใหม่อีกครั้งหรอก  แต่เป็นงานแต่งลูกชายคนเล็กน่ะ ) วันที่ 7 ธ.ค. นี้................ พินิตร ( บุ๋ม ) มาพร้อมภรรยาและลูกสาวหนึ่งเดียวคนนี้  ซึ่งตอนนี้เรียนชั้น ป.4 แล้วนะ  คนนี้ก็มีของแจกเพื่อนๆเหมือนกัน  เป็นหนังสือธรรมะ  สาธุ............... วิชาญ ( ก๊วย )  เจ้าของไร่องุ่นที่ กลางดง    เพิ่งผ่านการสูญเสียคนอันเป็นที่รัก คือภรรยา เมื่อไม่นานมานี้  ก็มาร่วมงานด้วย    นัดพบคราวหน้าไปพบกันที่ไร่ก็น่าจะดีนะจะได้เปลี่ยนบรรยากาศ    เจ้าของไร่ ว่าไง .................งานนี้ต้องขอบคุณ  น้อย ( สุรพล ) กิตติ  อุทัย  และประทีป  ที่ช่วยเป็นธุระทั้งจองร้าน นัดหมาย     ส่งข่าว  ทำแผนที่ และขึ้น Web.  ขอจงทำต่อไปนะเพื่อน  ไม่งั้นพวกเราคงไม่ค่อยได้มีโอกาสเจอกัน  ถ้าไม่มีผู้เป็นธุระ  เวลาเหลือน้อยลงเรื่อยๆแล้ว   ดูในทำเนียบรุ่นแล้วใจหายนะ “ถึงแก่กรรม” กันไปหลายคนแล้ว..............

 

                รุ่งพันธ์ ( ลูกน้ำ )  ยังรักษามาดเดิมไว้ตลอดเวลา   ดูท่าทางว่าวิทยายุทธคงจะแก่กล้าขึ้นมาก  เข้าใจว่าเพิ่งออกมาจากสำนักที่เขาเหลียงซาน     เลื่อมใสๆ    ข้าน้อย  ขอคารวะท่านหนึ่งจอก ................. เช่นเดียวกับ  มานิจ  ผู้เรียบร้อย  ก็ยังเรียบร้อยเหมือนสมัยเรียน  และขยัน “ มาตามนัด”   เสมอ  แต่วันงาน  พอฝนตก รีบขอตัวกลับบ้าน  บอกว่า  คุณภรรยาสั่งไว้ว่า ฝนตกให้รีบกลับบ้าน  ( เอ .. กลับไปทำอะไร  มิทราบ )................ตุ้ม ( เสมอใจ )  มาดเข้มมาเลย งานนี้  ต้องคอยยิ้มตลอดเวลา ไม่งั้นหาตัวไม่เจอ  ก็พี่แกเล่นเทนนิสกลางแดดทุกวัน   จะลงแข่งแทน ภราดรเหรอพี่ ..................ผู้ที่หน้าตาและร่างกายแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เจอกันครั้งสุดท้ายนานมาแล้ว หนุ่มอย่างไรก็ยังหนุ่มอย่างนั้น               เรียกว่ากาลเวลาไม่สามารถทำร้ายเขาผู้นี้ได้เลยน่าจะได้แก่  หนุ่ย ( สุรพรรณ )  พี่กินน้ำค้างแทนข้าวหรืออย่างไร วานบอก .............แอ้ด ( อารี )  ผู้ที่ทำลายสถิติ ว่ามีลูกอายุน้อยที่สุดในรุ่น ( อายุลูกนะ  ไม่ใช่อายุพ่อ )   มาถึงงานช้ากว่าใคร  ต้องเห็นใจนะ  กว่าจะอาบน้ำป้อนข้าวลูกเสร็จ  เฮ้อ...  บอกแล้วไม่เชื่อว่าอย่ามัวไหว้ครูอย่างเดียว ..................พัฒนะ  เป็นอีกคนในรุ่นที่มาร่วมแทบจะทุกครั้งที่มีการนัดหมาย   น่าจะมีการแจกรางวัลให้กับผู้ขยันมาร่วมงานนะนี่...............เห็น   สุพจน์ กับ สุรพงษ์   นัดหมายเล่นกอล์ฟกันเป็นนานสองนาน   ไม่รู้ตกลงกันได้ก่อนงานเลิกหรือเปล่า    พจน์ .. เราขอเตือนนายนะ  เจ้าโล้นน่ะ   ตั้งแต่  early retired  ออกมา    แก เล่นกอล์ฟ อาทิตย์ละไม่มากหรอก แค่ 8 วันเท่านั้น   เพราะคุณภรรยาไม่อยากให้อยู่บ้าน  รำคาญชายวัยทองน่ะ ...................งานนี้มีผู้หญิงในรุ่นมาร่วมงานคนเดียวคือ ติ่ง ( รัชนี )  ก็เลยต้องรับใช้เพื่อนๆหนักหน่อย   ทั้งดูแลเรื่องอาหารให้ทั่วถึง  ทำรายชื่อผู้มางาน  คำนวณค่าใช้จ่ายและเป็นเหรัญญิก เก็บเงิน  จ่ายเงิน  ( ไหนบอกว่าสิทธิเท่าเทียมกันไงล่ะ )

 

                      เราต่างแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้าน (มัน)คนนั้น   ด้วยความรู้สึกมีความสุขที่ได้เจอเพื่อนเก่า  และคิดถึงเพื่อนๆที่ไม่ได้มาร่วมงาน  เราคุยกันว่าคงเป็นไปได้ยากที่จะมีโอกาสเจอกันครบทุกคน  เพราะว่างไม่ตรงกัน  แต่อย่างน้อยเราจะพยายามจัดนัดพบให้บ่อยขึ้นเพื่อที่ว่าเพื่อนๆจะได้มีโอกาสผลัดเปลี่ยนมาเจอกันตามแต่ใครจะว่าง   สำหรับครั้งนี้ก็ขอเล่าและแซวกันเล่นพอหอมปากหอมคอแค่นี้     อยากให้เพื่อนๆช่วยกันเขียนอะไรก็ได้  มาลงใน  web.ของพวกเราหน่อย  อาจจะเป็นอะไรสั้นๆก็ได้  เพราะได้ยิน webmaster ( อุทัย ) บ่นเบาๆว่าไม่ค่อยมีคนสนใจเลย  ( น้อยใจแล้วนะ  ....... เอ้า   พวกเราช่วยกันหน่อย )